๑/🧵 
สรุป MIT Psychology & Economics 14.13: Lecture 1 Introduction I (ep1)
ผู้บรรยาย Frank Schilbach MIT February 3, 2020
วีดีโอ https://youtu.be/j5XdY5wkVTA
สไลด์ https://bit.ly/3cua97w
ผู้แปลไม่ได้จบเศรษฐศาสตร์ จึงสรุปเท่าที่เข้าใจจากวีดีโอ+สไลด์ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ 🙏

๒/
Psychology & Economics จิตวิทยา และ เศรษฐศาสตร์ คืออะไร
1. เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ เศรษฐศาสตร์ และ จิตวิทยา หรือ เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม 
2. นิยามของ จิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์ คือ การศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับจุดร่วมและความสัมพันธ์กันระหว่าง จิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์ในเชิงพฤติกรรม

๓/
3. คำนิยามที่กว้างขึ้นอาจรวมถึงเนื้อหาต่างๆ เช่น แพทยศาสตร์ สังคมวิทยา และ มานุษยวิทยา เป็นต้น
4. เป้าหมายหลักคือ ความเข้าใจอันลึกซึ้งในเนื้อหาที่สามารถสร้าง แบบจําลองเศรษฐกิจ (Economic models) ให้ดูสมจริงและ สามารถพัฒนาศักยภาพในการคาดการล่วงหน้าได้

๔/
Assumption of standard economics models ข้อสันนิษฐานต่างๆ ในแบบจําลองเศรษฐกิจปกติ (แบบมาตรฐาน)

[ผู้บรรยาย อยากให้คลาสมองเห็นว่า หัวข้อ จิตวิทยา และ เศรษฐศาสตร์ มีอะไรแตกต่าง จาก เศรษฐศาสตร์ แบบปกติมาตรฐานบ้าง]

๕/
1. Homo Economicus เป็นความคิดที่ว่า มนุษย์คือสัตว์เศรษฐกิจ เป็นลักษณะอย่างไร ในมุมของ เศรษฐศาสตร์ แบบปกติมาตรฐาน

[ผู้บรรยายบอกว่า เศรษฐศาสตร์ แบบปกติมาตรฐาน คือ prerequisite หรือสิ่งที่คลาสต้องเคยเรียนผ่านมาแล้ว ก่อนเลคเชอร์วันนี้]

๖/
2. Some typical assumptions of the standard model ตัวอย่างข้อสันนิษฐานของพฤติกรรมต่างๆ ในเศรษฐศาสตร์รูปแบบปกติ (standard model (Rabin, 2002)) 

๗/
 2.1 Well-defined and stable preferences ความชัดเจนและความมั่นคงในสิ่งที่ตนพอใจ เช่น เราชอบกินแอปเปิ้ลมากกว่ากล้วย เราก็จะเป็นแบบนั้นทุกวัน ยกเว้นสิ่งแวดล้อมต่างๆเปลี่ยนไป หรือเราอาจได้รับข้อมูลใหม่ๆ และเปลี่ยนไปชอบกินกล้วยมากกว่า นั้นหมายถึง ความมั่นคงนั้นไม่เหมือนเดิม

๘/
[มี นร.เสริมเรื่องของ Self-Control ของมนุษย์ และผู้บรรยายอธิบายว่า คล้ายกับข้อ 2.1 คือมนุษย์มีความสามารถควบคุมตัวเองได้ เช่นเขาตั้งใจจะไปฟิตเนสพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้เขาก็ต้องไปตามแผน ถ้าไม่ไปหมายถึงความมั่นคงนั้นไม่เหมือนเดิม เพราะปัจจัยบางอย่าง]

๙/
 2.2 Bayesian information processor (process information optimally) แบบมาตรฐานบอกว่า สมองมนุษย์จะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ และประมวลผลข้อมูลแบบ เบย์เซียน (เป็นสูตรการคำนวณข้อมูลทางคณิตศาสตร์เฉพาะทาง) เพื่อเลือกข้อมูลที่ดีที่สุด

๑๐/
 2.3 Maximize expected utility มนุษย์จะเลือกในสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อตัวเองเสมอ

 2.4 Apply exponential discounting weighting current and future well-being การประยุกต์ใช้ Exponential discounting (เป็นสูตรการคำนวนคณิตศาสตร์เฉพาะทาง) เพื่อการตัดสินใจในชีวิตปัจจุบันและอนาคต

๑๑/
 2.5 Self-interested (narrowly defined) มนุษย์ส่วนใหญ่จะสนใจตัวเอง สิ่งที่ตัวเองบริโภคเป็นหลัก (หรือมีแนวโน้มเห็นแก่ตัว)

๑๒/
 2.6 Have preferences over final outcomes, not changes มนุษย์มักคาดการณ์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น จากความคาดหวัง (มโน) ของตัวเอง และไม่ชอบเห็นมันเปลี่ยนแปลงไป

๑๓/
 2.7 No "taste" for beliefs or information มนุษย์ส่วนใหญ่ใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจากผู้อื่น (Information) เพื่อการตัดสินใจ มากกว่า อรรถประโยชน์ในความเชื่อ หรือความมั่นใจของตัวเอง (ความรู้จักตัวเอง)

๑๔/
3. Can you come up with real-world counterexamples? [ผู้บรรยายให้คลาสยกตัวอย่าง เหตุการณ์จริงต่างๆ ที่สวนทางกับทฤษฏีแบบมาตรฐานที่กล่าวมา ผู้แปลขอยกตัวอย่าง แค่บางคำตอบที่น่าสนใจ และเข้าใจ 😅 ]

๑๕/
 3.1 มีนักเรียนตอบว่ามีตัวอย่างที่แย้งกับ ข้อ 2.7 คือมนุษย์มักเชื่อ ในสิ่งที่ตัวเองเลือกที่จะเชื่อ โดยยกตัวอย่างเกี่ยวกับความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ผู้บรรยายเสริมว่า เหมือนกับคนที่อาศัยอยู่ในเขตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แทนที่เขาจะหาข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและ

๑๖/
วิธีรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่เขากลับเมินเฉยและพยายามมีความสุขกับสิ่งที่เชื่อ ที่เป็นอยู่ ตราบใดที่ปัญหายังไม่เกิดขึ้น

๑๗/
 3.2 มี นร.พูดเกี่ยวกับการจำกัดทางเลือกของตนเอง (Demand for restricting their choices) เพื่อป้องกันตัวเองเผลอทำผิดในอนาคต

๑๘/
โดยผู้บรรยายจึงยกตัวอย่างว่า ในคลาสนี้ห้ามนำ Laptop เข้ามาใช้งาน เขาเข้าใจดีว่าผู้เรียนอาจเจตนาดีที่จะนำมาใช้บันทึกการเรียน แต่เพื่อป้องกันปัญหาผู้เรียนวอกแวกไปเรื่องอื่นๆ เช่นแอบแชตกับเพื่อนตอนเรียน หรือ แอบดูรีวิวฟุตบอลในเน็ต และอื่นๆจึงต้องห้าม

๑๙/
เช่นเดียวกัน มนุษย์อาจเลือกที่จะ จำกัดทางเลือกของตัวเองตอนนี้ เพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำ อนาคตเขาอาจเผลอทำผิด (ห้ามใจตัวเองไม่ได้)

๒๐/
 3.3 มี นร.ตอบว่ามีตัวอย่างที่แย้งกับหัวข้อ Self-interested คือเขาอาจไม่อยากเข้าเรียนในคลาสนึง แต่เพื่อนเขาอยากเรียน เขาจึงต้องไปเรียนด้วย ผู้บรรยายจึงเสริมว่ามี 2 ส่วนคือ ส่วนหนึ่งมนุษย์อาจแคร์ความรู้สึกของคนรอบข้าง ช่วยเหลือเพื่อน ให้ยืมเงิน หรือบริจาคเงินให้การกุศล

๒๑/
คือสนใจความเป็นอยู่ของผู้อื่น ส่วนที่สอง อาจเป็นเรื่องของ Social Influences มนุษย์แคร์ว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเขา คนอื่นจะโกรธ จะเกลียด จะอิจฉาเขามั้ย หรือ ต้องทำอะไรบางอย่างที่คนอื่นชื่นชอบ แต่ตัวเองอาจไม่ได้ชอบเลย นั้นคือ Peer effects

๒๒/
ต่อไปจะเป็นกรณีศึกษาต่างๆ ที่ขัดแย้งกับหัวข้อใน เศรษฐศาสตร์ แบบมาตรฐาน ก่อนหน้านี้

Limited Self-Control การควบคุมตัวเองที่มีจำกัด
[ผู้บรรยายให้ดูรูป คนที่ตั้งใจมาออกกำลังกาย แต่ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่หน้าฟิตเนส และอธิบายว่ามันดูขัดแย้งกัน พวกเขาไม่ได้อยากมาออกกำลังกายมากนัก]

๒๓/
New Year’s resolutions: same procedure as every year รายการสิ่งที่ตั้งใจว่าจะทำในปีใหม่ มีรูปแบบเหมือนๆเดิมในทุกๆปี

๒๔/
[ผู้บรรยายจะสื่อว่า ทุกวันที่ 1 มกราคม ของทุกปีจะมีคนตั้งใจที่จะพยายามลดน้ำหนัก โดยดูจากสถิติการค้นหาใน Google search แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความตั้งใจจะค่อยๆ เลือนหายไป นั้นคือปัญหาของ การควบคุมตัวเอง ที่มีจำกัด]

๒๕/
Demand for information ความต้องการสำหรับข้อมูล
[จากรูปเป็นการสนทนาในตอนนึงของเรื่อง Dr.House โดยผู้บรรยายจะสื่อว่า หมอทุกคนอยากให้ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยโรค ถูกทดสอบต่างๆ เพื่อจะได้มีข้อมูลว่าต้อง รักษาอย่างไร ซึ่งผู้ป่วยอาจยินดี เข้ารับการตรวจทดสอบ 

๒๖/
แต่เขาอาจจะไม่อยากได้ ข้อมูลผลลัพธ์ หรือรู้ว่าเขาป่วยเป็นอะไร เพราะถ้าออกมาไม่ดี และโรคที่เป็นไม่มีทางรักษาให้หาย เขาอาจใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความทุกข์ สู้ไม่รู้เลย แล้วใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขดีกว่า]

๒๗/
Defaults matter: opt-in vs. opt-out ความสำคัญ ของ ค่าเริ่มต้นการเข้าร่วมกับไม่เข้าร่วม [ผู้บรรยาย แสดงให้เห็นกรณีศึกษาของ แบบสอบถามการยินยอมบริจาคอวัยวะหลังเสียชีวิตในแต่ละประเทศ ถ้าแบบสอบถาม ให้ผู้ทำแบบสอบถามต้องติ๊กเลือก "เข้าร่วมบริจาค" ก่อนเท่านั้นถึงเป็นการยินยอมบริจาค

๒๘/
จะได้ผู้ยินยอมที่น้อยมาก แต่ถ้า กำหนดค่าเริ่มต้นไปเลยว่าถ้าไม่ทำอะไรกับแบบสอบถาม จะเป็นการเข้าร่วมบริจาคโดยทันที ยกเว้น ติ๊กเลือก "ไม่เข้าร่วมบริจาค" ซึ่งปริมาณการยินยอม สูงกว่าเยอะมากในกราฟ แท่งสีฟ้า]

๒๙/
GlowCaps: Reminders can save lives การแจ้งเตือน สามารถช่วยชีวิตได้
[ผู้บรรยายพูดถึง GlowCaps สินค้าเกี่ยวกับการแจ้งเตือนการรับประทานยาให้ถูกเวลา โดยเฉพาะกับคนสูงวัย โดยสินค้าจะแจ้งเตือนผ่าน ไฟสถานะ และ ส่งเสียง ซึ่งสินค้าตัวนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า

๓๐/
ได้ผลดีเยี่ยม ในการใช้งานกับผู้ป่วย และ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงที่ว่า ความจำของมนุษย์นั้นมีจำกัด แม้กระทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง ก็อาจลืมได้ ดังนั้นสมองไม่น่าจะประมวลผลข้อมูลได้มากๆ เหมือนที่กล่าวมา]

๓๑/
Charity: people care about others การกุศล คนเราก็แคร์คนอื่นเหมือนกัน ไม่ใช่สนใจแต่ตัวเอง

๓๒/
GiveDirectly คือบริการส่งมอบเงินบริจาคของคุณ ไปสู่ผู้รับที่ขาดแคลนโดยตรง ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ [ผู้บรรยายจะสื่อให้เห็นว่า มนุษย์เราก็แคร์คนอื่นเช่นกัน ไม่ใช่จะเห็นแก่ตัว Self-interested เพียงอย่างเดียว]

๓๓/
Selective Attention Test สามารถเข้าไปดูวิดีโอ การทดลองเกี่ยวกับ "การเลือกที่จะให้ความสนใจ" ทาง YouTube https://youtu.be/vJG698U2Mvo ดูเสร็จแล้วผู้แปลขอสรุปตามด้านล่าง

๓๔/
การทดลอง จะเห็นว่ามนุษย์ สามารถให้ความสนใจได้ทีละอย่างเท่านั้น ในวิดีโอการทดลอง จะให้ผู้ชมนับว่า คนที่ใส่เสื้อสีขาว ในวิดีโอ ส่งบอลกี่ครั้ง ผู้ชมก็จะตั้งอกตั้งใจสนใจไปที่คนที่ใส่เสื้อสีขาวว่าส่งบอลกันกี่ครั้ง จนไม่ได้สังเกตุว่า มีอะไรแปลกๆเข้ามาในเฟรม (ถ้างงลองดูอีกรอบ 😄 )

๓๕/
โปรดติดตาม MIT Psychology & Economics 14.13: Lecture 1 Introduction I (ep2) ในตอนต่อไป 

ฝากแชร์ ฝากรีทวีต เพื่อให้เพื่อนท่านอื่นๆ ได้อ่านต่อ และถ้าท่านใดพอมีกำลัง อยากเลี้ยงกาแฟ เป็นกำลังใจผู้แปล รายละเอียดตามด้านล่างเลยจ้า 🥰 ขอบคุณครับ 
https://twitter.com/ooddynft/status/1554783388405354497?s=20&t=kNhQvBMi_E7MZVQxcYzRGQ

สรุป MIT Psychology & Economics 14.13: Lecture 1 Introduction I (ep1)

🧵 (1) เทคนิคอลชาร์ต 101 อู๊ดอู๊ด : จังหวะเข้าออร์เดอร์ รอรีเทส throwback pullback คืออิหยังหว่า

การหาจังหวะ เข้าออร์เดอร์ position สวยๆ (entry point) แบบไม่ให้ถูกหลอก ที่เหล่าเทรดเดอร์ชั้นนำใช้ เขาทำมีวิธีอย่างไร วันนี้มีคำตอบ

(2) Throwback การเข้าออร์เดอร์ตอน เบรคแนวต้าน



(3) จากรูปบน หลายๆคนชอบวิ่งเข้าตอน ราคาเบรคแนวต้านทันที ทั้งๆที่แท่งเทียนยังไม่ปิดด้วยซ้ำ (แนะนำแท่งเทียน 4 ชม. ขึ้นไป) คุณรู้มั้ยว่า วาฬ หรือ จ้าว หรือ Market Maker บลาๆๆ เขาก็รู้ว่าเม่าชอบเผลอโลภและทำแบบนี้ เขาก็จะทำราคา "เบรคหลอก" (false break) มากินเงินเพื่อนๆไง ดังนั้น

(4) ให้รอจังหวะ รีเทส เสร็จก่อน หรือภาษา เทรดเดอร์ เขาเรียกว่า Throwback ก่อนค่อยเข้า รูปสองคือรูปจริงแบบ กราฟแท่งเทียน แนวต้านคือเส้นประสีแดง

(5) Pullback การเข้าออร์เดอร์ตอน เบรคแนวรับ

(6) หลักการเหมือนกับ Throwback เลยครับ แต่เป็นตอน เบรคแนวรับครับ ส่วนรูปสองคือรูปจริงแบบ กราฟแท่งเทียน แนวรับคือเส้นประสีแดง

(7) เพื่อนๆ อาจมีคำถามตามมา แล้วไอ้ที่เบรคแนวต้าน แนวรับ แบบไม่รีเทสหละ ก็มีนี่ คำตอบคือ มันอาจมีการ รีเทส ภายใน LTF (Lower Time Frame) ก็ได้ ลองเข้าไปดู Time Frame เล็กๆต่อ แต่การรีเทสใน Time Frame เล็กๆ มันไม่น่าเชื่อถือเท่ากับใน TF ใหญ่ๆนะครับ ถ้าจะเสี่ยงก็จัดการความเสี่ยงดีๆ

(8) ส่วนที่ราคาเบรคเลยแบบไม่รีเทสเลยจริงๆก็มีครับ แต่มักเกิดกับช่วง FOMO หรือ Panic จะโดนปั้ม (Pump) หรือ ดั้ม (Dump) จนกราฟเป็นเส้นตรง Mono Wave เลย แต่เมื่อทุกอย่างปกติ ราคาจะย้อนกลับมารีเทสเสมอครับ

(9) หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบเนื้อหานะครับ หากไม่เข้าใจส่วนไหนถามมาในทวีตได้เลย หากชอบหรือถูกใจ ฝากรีทวีต กดไลค์ กดติดตาม เป็นกำลังใจนิดนะครับ

อ่านเนื้อหาเต็มหน้า 👉 https://typefully.com/ooddynft
เทเลแกรม ชาแนล ไม่พลาดทุกข้อความ 👉 t.me/ooddyta

เทคนิคอลชาร์ต 101 อู๊ดอู๊ด : จังหวะเข้าออร์เดอร์ รอรีเทส throwback pullback คืออิหยังหว่า

🧵 (1) เทคนิคอลชาร์ต 101 อู๊ดอู๊ด : แท่งเทียนคืออะไรก่อน

ชาร์ตแท่งเทียน (Candlestick Chart) หลายๆคนคงเคยเห็นจนชินแล้ว แต่ก็ไม่รู้ความหมายของมัน ว่ามันดูยังไง มีสีเขียว สีแดง แล้วมันคืออะไร วันนี้ผมจะมาอธิบายสำหรับมือใหม่ทุกท่านฮะ

(2) แท่งเทียนมีอยู่ 2 แบบคือ แท่งสีเขียว กับ แท่งสีแดง ตามรูปด้านล่าง
โดยมีองค์ประกอบหลักคือ ราคาเปิด ราคาปิด จุดสูงสุด และ จุดต่ำสุด

(3) ความแตกต่างระหว่าง แท่งสีเขียว กับ แท่งสีแดง
แท่งสีเขียว คือ แท่งที่ ราคาปิด อยู่สูงกว่า ราคาเปิด
แท่งสีแดง คือ แท่งที่ ราคาปิด อยู่ต่ำกว่า ราคาเปิด

(4) แท่งเทียน เทียบกับ กราฟเส้นตรง ได้ยังไง
ตามรูปใน (2) จะเห็นระดับราคาต่างๆ ตั่งแต่ ราคาเริ่มเปิด ราคาวิ่งไปจุดสูงสุด ต่ำสุด จนราคาปิด ตามระยะเวลา (แกน x) กราฟเส้นตรงของจริงไม่จำเป็นต้องวิ่งตามรูปเสมอไป แต่เมื่อจบกรอบระยะเวลาแล้วจะถูกย่อให้กลายเป็นแท่งแทียนตามนั้น

(5) กรอบระยะเวลาคืออะไร
กรอบระยะเวลา (Time frame) คือช่วงเวลาที่เราจะใช้พิจารณา การขึ้นลงของราคา สิ่งที่เราต้องการดูนั้นๆ กรอบเวลามาตรฐานส่วนใหญ่จะมี 1, 5, 15, 30 (นาที), 1, 4 (ชม.), 1 วัน, 1 สัปดาห์ และ 1 เดือน 

(6) โปรดติดตาม เทคนิคอลชาร์ต 101 อู๊ดอู๊ด ตอนต่อไปนะฮะ 🙏 

เทคนิคอลชาร์ต 101 อู๊ดอู๊ด : แท่งเทียนคืออะไรก่อน

🧵 (1/12) Web3 Project เหรียญแนะนำ $THETA

(2/12) หลายๆคนต้องรู้จักและเคยใช้ Youtube ใช่มั้ยครับ นี่คือบริการ วีดีโอ สตรีมมิ่งออนไลน์ และ ไลฟ์สตรีมมิ่ง ด้วยในตัวพร้อมกัน ในโลกของ Web2 ยังไม่ร่วมคู่แข่งเจ้าอื่นๆเช่น TikTok, Vimeo, Facebook Video อีกทีนี้ถ้าในโลกของ Web3 ก็จะมีบริการคล้ายๆกัน นั้นก็คือเจ้า Theta Network

(3/12) ขออธิบายรายละเอียดในมุมของ เทรดเดอร์ เพื่อเก็งกำไรนะครับ Theta Network ecosystem อยู่ใน ERC-20 จะมีอยู่สองเหรียญ คือ $THETA ตามรูปด้านบนอยู่อันดับที่ 43 ใน CoinMarketCap และมี Max Supply อยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญ และอีกเหรียญคือ $TFUEL อยู่อันดับที่ 94 แต่ Max Supply ไม่ระบุ

(4/12) ในส่วนของเหรียญ $TFUEL จะใช้สำหรับจ่ายเป็นค่าดูคอนเทนต์สำหรับผู้ชม, เป็นค่าแก๊สในเครือข่าย และเป็น Reward ให้กับคนที่ตั้ง Node ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย ส่วนเหรียญ $THETA ใช้ในการ stake ในระบบเสมอ ถ้าใครก็ตามที่อยากตั้ง Node ดังกล่าวเพื่อ earn $TFUEL

(5/12) ประเภท Node ต่างๆที่มีในเครือข่าย Theta Network จะมีตามด้านล่าง

1. Theta Validator Node ใครๆก็สามารถรัน Node นี้ได้ถ้ามีเครื่องคอมที่ spec สูงพอ โดยผู้รัน Node ต้อง stake $THETA 200,000 เหรียญขึ้นไป

(6/12) 2. Theta Guardian Node การรัน Node เป็น Node สำหรับดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับเครือข่าย และตัวนี้ต้องใช้ $THETA stake ขั้นต่ำคือ 1,000 เหรียญขึ้นไป 

(7/12) 3. Theta Edge Node การรัน Node นี้จะใช้สำหรับช่วยถ่ายทอดสัญญาณสตรีมมิ่งในเครือข่าย โดยจะต้อง stake เหรียญ $TFUEL ขั้นต่ำ 10,000 แต่ไม่เกิน 500,000 เพื่อจะได้ reward เป็น $TFUEL เหมือนข้อ 1 กับ 2 

(8/12) Partners ต่างๆ มีใครบ้าง ตามรูปด้านล่าง 

(9/12) Ecosystem ของ Theta Network ค่อนข้างน่าเชื่อถือเพราะอยู่ใน ERC-20 (Ethereum Chain)ที่กำลังเข้าสู่ The Merge ช่วงกลางเดือนกันยายน ส่วนทาง Theta Network เองกำลังจะมี launch mainnet4.0 "Metachain" ธันวาคม ปีนี้

(10/12) ส่วนตัวคิดว่าเหรียญ $THETA น่าเก็บมากกว่า $TFUEL ที่ไม่มี Max supply ชัดเจน และถ้าเข้าสู่ยุค Web3 เมื่อไหร่ ใครก็ตามที่ต้องการตั้ง Node ต่างๆ (ยกเว้น Edge Node) ต้องใช้ $THETA ในการ stake เสมอ และเหรียญมีอยู่แค่ 1 พันล้านเท่านั้น (Validator Node ต้องใช้ 2 แสนเหรียญขึ้นไป)

(11/12) เหรียญ $TFUEL ใช้เป็นเหมือน ค่าบริการที่คนดูสตรีมมิ่ง (Viewer) ต้องจ่ายให้คนช่วยถ่ายทอดสัญญาณ (Relayer) เนื่องจาก Max supply ไม่ระบุ ถ้าอยากให้มีราคาตามหลัก Tokenomics ก็ต้องมีการเบิร์นเหรียญทิ้ง ตามรูปด้านล่าง

(12/12) ข้อมูลอ้างอิง https://www.thetatoken.org/ อย่าลืม #DYOR เพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจ

Web3 Project เหรียญแนะนำ $THETA

🧵(1/7) Web3 Project เหรียญแนะนำ (2) $GRT 

(2/7) $GRT เป็นเหรียญอันดับที่ 58 ใน CoinMarketCap เหรียญนี้น่าสนใจตรงที่เขาอยู่ในเครือข่าย ERC-20 ก็คืออยู่ในบล็อกเชนของ Ethereum การทำงานของเขาคือ ทำงานเป็นตัว data index เกี่ยวกับ dApps ต่างๆใน ERC-20 อธิบายง่ายๆคือ ถ้าเรามี dApp ตัวนึงที่อยากดึงข้อมูล

(3/7) เกี่ยวกับ service ของ Uniswap, Sushiswap, Curve, Aave และอื่นๆเราจะต้องดึงผ่าน API ที่เขาเรียกในระบบของ GRT ว่า Subgraph วิธีการดึงข้อมูลก็จะใช้การ Query ข้อมูลขึ้นมาซึ่งหัวข้อจะมีตาม playground ที่ระบุไว้ ใครที่เป็น Dev หรือ DBA จะเข้าใจดี 

(4/7) ทีนี้องค์ประกอบของหน้าที่ต่างๆและ use case ของ GRT จะมีส่วนไหนบ้างตามด้านล่างครับ

1. Curators คือ ผู้ตรวจสอบ Subgraph และส่งสัญญาณ (Signal) ความปลอดภัยของข้อมูลที่จะ index ให้ทาง Indexers ต้องใช้เหรียญ GRT ในการ stake และได้ Reward เป็น GRT เช่นกัน

(5/7)
2. Indexers คือ ผู้ตั้ง Node ไว้ใช้งานเพื่อช่วย index และ query ข้อมูล การตั้ง Node ต้องใช้เหรียญ GRT ในการ stake และจะได้รับ Reward เป็น GRT

3. Delegators คือ ผู้นำเหรียญ GRT มา ช่วย stake ใน Node ของ Indexers อย่างเดียวไม่ตั้ง Node เอง ได้รับ Reward เป็น GRT จาก Indexers

(6/7) Developer หรือผู้ใช้งาน subgraph ของ GRT เพื่อดึงข้อมูลต่างๆ ต้องจ่ายค่าบริการเป็น GRT ซึ่งค่าบริการเหล่านี้จะเป็น Reward กลับไปให้ Curators, Indexers และ Delegators ต่อไป 

ข้อมูลอ้างอิง https://thegraph.com/en/

(7/7) 
สรุปคือ อนาคตถ้ามีโปรเจ็คใดๆ เกิดขึ้นในเชนของ Ethereum ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ The Merge ช่วง ต้นกันยายนนี้ ทุกตัวต้องส่งข้อมูลมา index ในระบบของ GRT เพื่อเอาไว้ให้ ผู้ที่ต้องการใช้งานข้อมูล เรียกใช้ต่อไป แล้วถ้ายุค Web3 มาถึง $GRT น่าจะมีความต้องการสูงเช่นกัน

Web3 Project เหรียญแนะนำ $GRT

📝🧵เหรียญน่าเก็บ ตลาดกระทิงรอบหน้า ผมมองว่าเป็นยุคของ web3 infrastructure จะค่อยๆมาเปลี่ยนผ่านพวก Cloud Services ที่มีอยู่ปัจจุบันพวก IaaS, PaaS, SaaS จากประสบการณ์ที่ผมเคยทำงานด้าน Backend Developer จะรู้ดีว่าพวกนี้มีจุดแข็งจุดอ่อนยังไง และ Web3 จะมาแก้ปัญหายังไง (1/6) 

รายละเอียดปัญหาของ Cloud Services ปัจจุบันผมจะไม่พูดรายละเอียดมากนะครับ เพราะมันเป็นศัพท์เทคนิค เอาเป็นว่าปัญหาจะวนอยู่แค่เรื่อง Scalability (การขยาย/ลด ขนาดเพื่อรองรับปริมาณการใช้งาน) กับราคาที่ต้องจ่าย และ Stability (ความเสถียรของระบบ) (2/6)

ปัญหาเรื่อง Scalability ที่ผมเคยผ่านมากับ Google Cloud Platform (GCP) ก็คือเรื่องที่เราต้องคอยลดคอยเพิ่ม nodes เพื่อช่วยบริษัทประหยัดงบ แต่ก็ต้อง ห้ามล่มด้วย ในส่วนของ automate มันก็มีอยู่ แต่เชื่อผมเถอะ manual เยอะกว่า 55 หลายๆอย่างมันไม่ได้สวยงามตามอุดมคติขนาดนั้นครับ (3/6)

ส่วนเรื่อง Stability (ความเสถียรของระบบ) หลายๆคนคงเคยเห็น hashtag facebook ล่ม, youtube ล่ม, twitter ล่ม ไม่รวม service ธนาคารต่างๆบ้านเราที่ล่มอีก (พวกนี้ก็ใช้บริการ Cloud Services นี่แหละใหญ่ๆก็ GCP, AWS etc.) บ่งบอกว่ามันยังต้องการการพัฒนาได้อีก (4/6)

ยังไม่รวมเรื่อง Data Privacy อีกดังนั้น Web3 จึงจะมาแก้ปัญหาเหล่านี้ คือผลักภาระทั้งหมดมาให้ Client Nodes ช่วยประมวลผล, เก็บไฟล์ระบบ, สตรีมมิ่ง และอื่นๆแลก reward ซึ่งเราจะได้ข่าวน้อยมากว่ามี blockchain ล่มใช่มั้ยครับยิ่งพวก chain ใหญ่ๆอย่าง btc, eth และ bnb คือยังไม่เจอ (5/6)

Web3 dApps ต่างๆที่จะมาทดแทน Web2 services ที่เราใช้ๆกันอยู่ตามรูปด้านล่างครับ ส่วนรายละเอียดเหรียญของแต่ละ dApps มีอะไรบ้าง ผมจะค่อยๆ นำมาแนะนำให้ใน thread นี่นะครับ บุ๊คมาร์ค thread  นี้ไว้เลยจ้า🧵(6/6)

รูปจาก https://merehead.com/blog/develop-web3-mobile-app/ 

🧵Web3 Project เหรียญแนะนำ (1) $LINK (1/5) 

เหรียญนี้อยู่อันดับที่ 24 ใน CoinMarketCap เป็นเหรียญที่พื้นฐานดีอีกเหรียญ จริงๆเขาไม่ได้เป็นเหรียญ Web3 โดยตรงแต่เป็น "ทางอ้อมที่ขาดไม่ได้" อยู่ในหมวดของ "Oracle" หมวดนี้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆคือเป็นตัวเชื่อมระหว่างเครือข่าย Blockchain กับเครือข่าย API ภายนอกที่เราใช้กันอยู่ (2/5)

ยกตัวอย่างให้เข้าใจ ถ้า dApp ในเครือข่าย Blockchain ของผมอยากดึงข้อมูล ล๊อตเตอรี่ รางวัลต่างๆมาแสดง dApp ผมก็ต้องต่อกับ service พวก Oracle เหล่านี้เพื่อไปเรียก API ของกองสลากอีกที แล้วคิดดูว่า API บนโลกมีกี่ API แล้วเหรียญพวก Oracle จะไม่สำคัญได้ยังไง !!! (3/5)

เหรียญในกลุ่มของ Oracle มีหลายเหรียญ ของไทยเราก็มีคือ $BAND protocol ลองไปศึกษาเพิ่มได้ครับ แต่ที่ผมแนะนำ $LINK เพราะเขาได้จับมือกับทาง Google Cloud Platform เรียบร้อยแล้ว ดูน่าเชื่อถือมีอนาคตไปอีกระดับ ตามรูปฮะ ที่มา https://cloud.google.com/blog/products/data-analytics/building-hybrid-blockchain-cloud-applications-with-ethereum-and-google-cloud (4/5) 

Project ทุก Project เหรียญทุกเหรียญ มีความเสี่ยงหมด อย่าลืม #DYOR ทุกครั้งต่อด้วยนะครับ โปรดติดตาม Web3 Project เหรียญแนะนำตอนต่อไป (5/5)

Web3 Project เหรียญแนะนำ (2) $GRT
https://twitter.com/ooddynft/status/1561980714278481920?t=Tg6uvaiXZhvgl54i45GgQA&s=19

Web3 Projects เหรียญแนะนำสำหรับ next bull run

ใครอยากศึกษาการเทรดแบบ Price Action สไตล์ ICT (Inner Circle Trader) อ่านฟรีด้านล่างเลยฮะ ใครไม่ได้เทรด forex ด้วยก็ข้ามบางช่วงได้ครับ จะได้ไม่สับสน
https://www.studocu.com/row/document/faculdade-do-leste-mineiro-faculeste/money-and-bank/inner-circle-trader-ict-forex-ict-notespdf/17916813

Time Frame และ รูปแบบของ โครงสร้างตลาด เราต้องมองความสัมพันธ์ของ Time Frame ให้ออกก่อนว่าเป็นระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ในกราฟที่เราดู ตัวอย่างแท่งเทียน 1 วันจะมีแท่งเทียน 4 ชม. อยู่ 6 แท่ง แท่ง 1 ชม. มี 24 แท่ง ฯ มี high/low แต่ละระดับ แท่ง 1 วัน = long term high/low (ต่อ) 

แท่ง 4 ชม. = intermediate term high/low แท่ง 1 ชม. = short term high/low เป็นต้น

SWING HIGH รูปแบบในอุดมคติคือ มีแท่งเทียนที่จุด high และ low แท่งทางซ้าย และแท่งทางขวา อยู่ต่ำกว่า แท่งตรงกลาง

SWING LOW รูปแบบในอุดมคติคือ มีแท่งเทียนที่จุด high และ low แท่งทางซ้าย และแท่งทางขวา อยู่สูงกว่า แท่งตรงกลาง 

* อย่าเทรดสวนตลาด ตลาดขาขึ้นให้รอซื้อ ขาลงให้รอขาย
* การออก position แต่ละไม้คำนึงถึง ระยะเวลาของโครงสร้างตลาดด้วย ว่าเป็นระยะสั้น กลาง หรือยาว ไม่งั้นอาจต้องรอนานกว่าจะจบรอบ
* เวลาหาจุดเข้า ให้ดูแนวโน้มตลาด time frame ใหญ่ แต่ให้หาจุดเข้าที่ time frame เล็กเสมอ (1/3)

* โครงสร้างตลาดเมื่อจบหรือ ผ่านแนวรับ/แนวต้าน ของ time frame ใหญ่ๆจงหาจุดเข้า/ออกให้สอดคล้องกัน
* ทุกๆการสวิงของราคา(ขึ้น/ลง)ส่วนใหญ่จะมีขนาดพอๆกันจนคุณจะประหลาดใจ
* ถ้าการสวิงขึ้น ขึ้นไป 50 จุดหลังการ consolidate ถ้าขึ้นต่อจะขึ้นประมาณ 50 จุด ถ้าลง จะลงประมาณ 50 จุดเช่นกัน (2/3)

* เมื่อเป็นตลาดกระทิง ราคาจะเบรคจุด สวิงไฮก่อนหน้า และ จุดนี้จะเปลี่ยนเป็นจุดสวิงโลว์ต่อไป (3/3)

คำย่อต่างๆ ในระบบเทรด ICT 
https://twitter.com/lightofkingdoms/status/1559750432188116992?s=20&t=F_0PQtFfst678Dk-m4Ht_A

* หากอยู่ในตลาดหมี ราคาจะเบรค swing low ก่อนหน้า และจุดนี้จะกลายเป็น แนวต้านของ swing high ต่อไป
* หากจะเล่นกรอบของ time frame ระยะกลาง จงสนใจเฉพาะ การ short จุด swing high และ long จุด swing low ของ time frame ระยะกลางเท่านั้น
* จะ scalping หรือ day trade อย่าสวนเทรน (1/2)

* ควรใช้ กราฟ 1 วัน, 4 ชม. และ 1 ชม. + รูปแบบการ swing จะดีที่สุดสำหรับ concept ของ price action นี้
* เมื่อโครงสร้างตลาดหมีเสียรูปแบบไป โครงสร้างจะเปลี่ยนเป็นตลาดกระทิง และเมื่อโครงสร้างตลาดกระทิงเสียรูปแบบ โครงสร้างจะเปลี่ยนเป็นตลาดหมี (2/2)

🧵(1/4) HOW A DOWNTREND / UPTREND STARTS IDEAL PRICE STRUCTURE 
รูปแบบการเริ่มต้น เทรนขาลง / ขาขึ้น ตามอุดมคติของโครงสร้างราคา 

(2/4) 
ตัวย่อสำคัญ
HH = Higher High (จุดราคาสูงสุด ที่สูงกว่าก่อนหน้า)
HL = Higher Low (จุดราคาต่ำสุด ที่สูงกว่าก่อนหน้า)

(3/4)
LH = Lower High (จุดราคาสูงสุด ที่ต่ำกว่าก่อนหน้า)
LL = Lower Low (จุดราคาต่ำสุด ที่ต่ำกว่าก่อนหน้า)

HOW A DOWNTREND STARTS การเริ่มต้นของเทรนขาลง
เมื่อ HL ก่อนหน้าถูกเบรคลงมาด้วย LL แล้วตามมาด้วย LH (ตามรูปบน)

(4/4)
HOW AN UPTREND STARTS การเริ่มต้นของเทรนขาขึ้น
เมื่อ LH ก่อนหน้าถูกเบรคขึ้นไปด้วย HH แล้วตามมาด้วย HL (ตามรูปล่าง)

🧵(1/3) MARKET FLOW ทิศทางของตลาด 

(2/3)
* เฉพาะสวิง High/Low ก่อนหน้าล่าสุดเท่านั้นที่จะใช้ในการพิจารณาสำหรับ "ทิศทางของตลาด" ไม่รวมสวิงเก่าๆ
* แนะนำให้ใช้กราฟ 1 วัน, 4 ชม. และ 1 ชม. เท่านั้น (เน้นกราฟ 4 ชม. สำหรับการดู ทิศทางของตลาด 
* ถ้าโครงสร้างตลาด และ ทิศทางของตลาด ไม่สอดคล้องกันหรือชัดเจน อย่าเทรด

(3/3)
* ถ้าสวิง high ล่าสุด ถูกเบรค ทิศทางของตลาดคือ "กระทิง" จนกว่า สวิง low ล่าสุดจะถูกเบรค
* ถ้าสวิง low ล่าสุด ถูกเบรค ทิศทางของตลาดคือ "หมี" จนกว่า สวิง high ล่าสุดจะถูกเบรค
* ทิศทางของตลาดเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
* สนใจเฉพาะ สวิง ใน time frame ระยะกลางพอ ไม่ต้องสนใจ ระยะสั้น

รวมความรู้เกี่ยวกับระบบเทรด ICT (Inner Circle Trader) 

เพื่อนๆคนไหน อยากศึกษาวิชา #Elliottwave ภาษาไทยฟรีๆ เป็นแนวทางของ อ.โต่งเต่ง (ชินโชติ ไชยยะ) และ พี่ศรีสยาม แนะนำไป discord พี่ศรีสยาม https://discord.gg/V4M4aYVM ห้อง Elliott-Wave ได้เลย มีสรุปมาให้แล้ว เข้าใจง่ายครับ ติดคำถามส่วนไหน ถามใน discord ได้เลยจ้า 

#Elliottwave มีหลายสายนะครับ จะเลือกสายไหนแล้วแต่เพื่อนๆเลย แต่แนะนำว่า เลือกแล้วไปให้สุด อย่าผสม จับเล็กผสมน้อยนะครับ มันจะสับสน การนับเอย อัตราส่วนเอย แต่ละสายบางทีไม่เหมือนกัน จะมึนครับ (ผมเคยเป็นมาก่อน ก่อนเข้า discord พี่ศรี และซื้อหนังสือ อาจารย์โต่ง)